วิธีการโปรโมทเว็บไซต์

วิธีการโฆษณา: Banner

1. ป้ายโฆษณา

          - เป็นรูปแบบที่นิยมใช้กันมากบนอินเทอร์เน็ตเพื่อให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์คลิกเชื่อมโยงถึงอีก

เว็บไซต์หนึ่ง ป้ายแบนเนอร์จะแสดงข้อมูลในรูป ข้อความ รูปภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว Video Clip และ

เสียง เพื่อโฆษณาสินค้าและการบริการ

          - ขนาดของป้ายโฆษณา  ขนาดปกติ มีความยาว 5 - 6.25 นิ้ว   ความกว้าง 0.5 - 1 นิ้ว และมีหน่วยวัดเป็นพิกเซล  ขนาดไฟล์ 7-10 kb.  ซึ่งถ้ามีขนาดใหญ่เกินไปอาจจะสร้างปัญหาในการเข้าถึงข้อมูลช้าเกินไป

ข้อดี

       - เมื่อผู้สนใจคลิกแบนเนอร์จะเป็นการเชื่อมโยงถึงเว็บไซต์โดยตรง ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะได้

              - สามารถโฟกัสส่วนแบ่งการตลาด หรือ “forced advertising” เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคสนใจก่อนจะได้รับข้อมูลสารสนเทศ หรือความบันเทิง

             - สามารถใช้สื่อผสมในการโฆษณาได้

ข้อเสียของป้ายแบนเนอร์คือ

              - มีค่าใช้จ่ายสูงถ้าต้องการได้รับความสำเร็จในการโฆษณา

         -ข้อความที่จะใช้กับโฆษณาต้องอาศัยความคิดริเริ่มสร้างสรรค์เพื่อให้ได้ข้อความสั้นน่าสนใจ และสื่อถึงกลุ่มเป้าหมาย 

            -ตำแหน่งการวางแบนเนอร์ในหน้าเว็บ หรือ การกำหนด Click zone อาจจะไม่คงที่ เช่น การศึกษาพบว่าบางครั้งแบนเนอร์ที่ติดตั้งไว้ด้านล่างเพจ ถูกคลิกมากกว่าแบนเนอร์ที่อยู่ด้านบนเว็บ เป็นต้น

Banner swapping

          - การฝากแบนเนอร์ไว้กับผู้ให้บริการ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรืออาจมีเล็กน้อย เป็นการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนแบนเนอร์กับบริษัทโดยตรง ซึ่งเป็นวิธีที่มีค่าใช้จ่ายต่ำ
          - ผู้ทำการฝากป้ายต้องทำการลงทะเบียน
          - ได้รับ source code HTML ไปใส่ไว้ในเว็บของตนเอง
      -ยุ่งยากในการจัดเรียง และกำหนดตำแหน่งแบนเนอร์ของเว็บให้เหมาะสม กับจำนวนการจราจรข้อมูล ซึ่งบริษัทจะต้องติดต่อกับเว็บมาสเตอร์ของเว็บไซต์เพื่อตกลงเงื่อนไข และความต้องการร่วมกัน
          - http://www.bannerswap.com


Banner exchanges

          - หลาย ๆ เว็บไซต์นิยมใช้วิธีนี้มากกว่า Banner Swapping เพราะง่าย และแมชกันมากกว่า เช่น บริษัท ก. แสดงเว็บ ข. แต่เว็บ ข ไม่ได้แสดงแว็บ ก อย่างไรก็ตามเว็บ ข แสดงเว็บ ค และ เว็บ ค แสดงเว็บ ก นั่นคือการแลกกับหลาย ๆ เว็บ อาจ 3 เว็บหรือมากกว่า

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วิธีการโฆษณา: URL

-ฟรีค่าใช้จ่าย
-ลงทะเบียนเพื่อโฆษณา Web site ใน Search engine
-แต่ละ Search engine จะใช้วิธีการที่แตกต่างกัน
-บาง Search engine ใช้ Meta Tag
-การค้นหาต้องตรง (Match) กับ Keyword ในการลงทะเบียนมิฉะนั้นอาจจะค้นหาไม่พบ

ข้อดี

-เสียค่าใช้จ่ายต่ำ
-ต้องลงทะเบียน URL ของเว็บไซต์โดยไปที่เว็บไซต์ของ search engines
-ใช้ Keyword สำหรับการค้นหา

ข้อจำกัด

-ดัชนีที่สร้างจาก Search engines มีความแตกต่างกัน
-Meta tags เป็นส่วนที่มีความซับซ้อน

 

 

E-Commerce Advertising

1.ให้นักศึกษาระบุ ข้อดี - ข้อเสีย ของ E-Commerce Advertising

* * * * * ข้อดีของ E-Commerce Advertising * * * * *
- สื่อโฆษณาสามารถปรับปรุงได้ตลอดเวลาและประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าสื่อชนิดอื่นๆ
- จำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว
- รูปแบบสื่อโฆษณาสามารถใส่ลูกเล่นหรือผสมผสานสื่อชนิดต่างๆ
- การเข้าถึงสื่อได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
- สามารถดำเนินการได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- สามารถตัดปัญหาการเดินทางไกลได้
- สามารถครอบคลุมไปได้ทั่วทั้งประเทศและทั่วโลก
- มีการเข้าถึงได้อย่างสะดวกและง่ายต่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์

* * * * * ข้อเสียของ E-Commerce Advertising * * * * *
- ต้องมีการปรับปรุงโฆษณาให้ทันสมัยและเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ
- ค่าใช้จ่ายในการลงทุนค่อนข้างสูงในช่วงเริ่มต้น
- ข้อจำกัดในการนำเสนอสินค้าและข้อมูลที่แสดงอยู่บนป้ายโฆษณา (Banner)
- อาจจะมีข้อจำกัดในการแสดงสินค้า
- ต้องมีกฏหมายรับรองยืนยันประสิทธิภาพ



2. ให้นักศึกษาคิดว่าการจัดทำ E-Commerce Advertising ยีงมีวิธีการอื่นนอกเหนือจากที่เรียนมาหรือไม่ จงหาขุอมูลเพิ่มเติมและสรุป

การจัดทำ E-Commerce Advertising ยีงมีอีกหลายวิธีที่สามารถทำได้ อย่างเช่น

1. Banner Swapping เป็นข้อตกลงทางธุรกิจระหว่างบริษัท 2 บริษัท เพื่อแลกเปลี่ยนแบนเนอร์ระหว่างกันโดยแต่ละฝ่ายจะนำแบนเนอร์ของอีกฝ่ายไปแสดงไว้บนเว็บของตน

2.Online Catalogs การทำแคตตาล็อกสินค้าจากแคตตาล็อกพื้นฐานให้เป็นแบบออนไลน์เป็นการแสดงถึงรายการสินค้า คุณสมบัติ รายละเอียดต่างๆของสินค้าแบบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและบริการได้สะดวกขึ้น รายการสินค้าจะถูกนำเสนอในรูปแบบโบรชัวร์ (Brochure) ซึ่งถือเป็นพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับธุรกิจ e-commerce

3.Rich Media Advertising หรือ Multi Media Advertising โฆษณาที่มีการใช้เทคโนโลยีสูงขึ้น มีทั้งภาพกราฟฟิคและเสียง โฆษณานั้นจะมีปฎิสัมพันธ์ผู้ใช้งานโดยตรง เช่น ลงทะเบียนหรือสมัครสมาชิกในโฆษณาดังกล่าวได้เลยโดยไม่ต้องคลิกไปเว็บไซต์อื่น

4.Offline Marketing การสื่อสารการตลาดโดยใช้เครื่องมือ กิจกรรมทางโฆษณา การตลาดและการขายที่มองเห็นไม่เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต จับต้องได้ เน้นกิจกรรมทางการตลาดเพื่อสื่อสารให้เข้าถึงผู้บริโภค การสื่อสารการตลาดจะประสบผลสำเร็จได้นั้นจะต้องมีทั้ง Offline marketing และ Online marketing

5. Interstitial ads หลักๆ จึงเป็นโฆษณาทาง Internet แบบที่เป็น “โฆษณาคั่นระหว่างหน้า” หรือ “โฆษณาคั่นรายการ”โดยในระหว่างสองหน้าเว็บเพ็จจะมีหน้าโฆษณา ปรากฏคั่นขึ้นมา เมื่อมีการเปลี่ยนหน้าเว็บเพ็จจากหน้าหนึ่งไปยังอีกหน้าหนึ่งภายในเว็บไซต์โดยหน้าโฆษณาอาจจะเป็นหน้าเว็บเพ็จหนึ่งที่คั่นอยู่ก่อนเว็บเพ็จปลายทางที่กำลังรอข้อมูลอยู่

สรุป

การจัดทำ E-Commerce Advertising มีหลายวิธีเนื่องจาก E-Commerce Advertising จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยเพื่อให้ข้อมูลข่าวสารที่ใช้ในการโฆษณา การประชาสัมพันธ์ มีความทันสมัยขึ้นตามระยะเวลาที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุดสมัยของคนเราในปัจจุบัน

ขั้นตอนการชำระเงินของไทย (E-Commerce)

การชำระเงินของไทย(E-commerce)

ขั้นตอนและวิธีการโอนเงินผ่านช่องทาง''ธนาณัติออนไลน์''

                การขอใช้บริการธนาณัติออนไลน์ไม่มีข้อยุ่งยาก เพียงแต่ผู้ใช้บริการสามารถไปขอใช้บริการได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่ง  โดยผู้ใช้บริการจะต้องกรอกรายการใน "ใบฝากส่งเงินธนาณัติออนไลน์" ให้ครบถ้วนแล้วยื่นต่อเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยจำนวนเงินที่ต้องการฝากส่งและค่าบริการ  เมื่อเจ้าหน้าที่ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะส่งมอบใบเสร็จรับเงินให้กับผู้ใช้บริการ  ต่อจากนั้นให้ผู้ใช้บริการโทรศัพท์ไปบอกแก่ผู้รับเงินที่ปลายทางให้ไปรับเงินที่ไปรษณีย์ ณ ที่ไปรษณีย์ที่ได้ระบุในที่ดังกล่าวได้เลย ในระหว่างที่ผู้รับเงินเดินทางไปไปรษณีย์นั้น ธนาณัติออนไลน์ฉบับนี้ก็ไปรออยู่ที่ไปรษณีย์ปลายทางแล้ว และการใช้บริการทางธนาณัติออนไลน์นี้ยังมีความสะดวกรวดเร็วกว่าการส่งธนาณัติแบบธรรมดาด้วย

ตัวอย่าง ใบฝากส่งเงินธนาณัติออนไลน์

ขั้นตอนการฝากส่งเงินธนาณัติออนไลน์

1. กรอกวัน เดือน ปี ที่ฝากส่ง ในช่องหมายเลข1

2.  กรอกจำนวนเงินที่ฝากส่งเป็นตัวอักษร ในช่องหมายเลข 2

3. กรอกจำนวนเงินเป็นตัวเลข ในช่องหมายเลข 3

4. กรอกชื่อไปรษณีย์ปลายทาง ในช่องหมายเลข 4

5. กรอกรหัสไปรษณีย์ปลายทาง ในช่องหมายเลข 5

6. กรอกชื่อ – สกุล ของผู้รับเงิน ในช่องหมายเลข 6

7. ถ้าต้องการส่งข้อความไปด้วยก็ให้กรอกข้อความที่จะส่งลงไป ในช่องหมายเลข 7 แต่ถ้าไม่ต้องการส่งก็ให้เว้นวรรคช่องนี้ไว้

8.กรอกชื่อ – สกุล ผู้ฝากลงในช่องหมายเลข 8 ให้ชัดเจน

9. กรอกหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ฝากส่ง ในช่องหมายเลข 9

10. ถ้าต้องการให้แจ้งผู้รับทางไปรษณีย์ตามที่อยู่ก็ให้ทำเครื่องหมายในรูปวงกลม หมายเลข 10 แล้วกรอกที่อยู่ผู้รับในช่องหมายเลข 11 พร้อมรหัสไปรษณีย์ในช่องหมายเลข 13

11. ลงชื่อผู้ฝากในช่องหมายเลข 12 ให้ชัดเจน

ค่าธรรมเนียมในการจัดส่ง

                ค่าธรรมเนียม 1,000 บาทแรกคิดค่าบริการ 40 บาท 1,000บาทต่อไปหรือเศษ คิดค่าบริการ 1,000 บาทละ 2บาท สามารถฝากส่งได้สูงสุดถึง 50,000 บาทต่อฉบับ และฝากส่งถึงผู้รับรายเดือนกันได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อวัน

                ค่าฝากข้อความถึงผู้รับคิดค่าบริการ 10 บาทต่อฉบับ

mind map chapter1